อำเภอสัตหีบ เป็นอำเภอที่มีแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ๆ ทั้งทะเลสวย ๆ , ปะการัง ,เต่าทะเล , เรือรบ , วัดดัง , ไร่องุ่น , กีฬาทางน้ำ , BB Gun และพิพิธภัณฑ์ เฉพาะพิพิธภัณฑ์ เท่าที่ผมนึกออกก็มีอยู่ 3 แห่ง ใกล้ ๆ กัน สามารถไปชมได้ครบทั้ง 3 ที่ได้ภายในวันเดียว โดยวันนี้ผมจะพาไปชมพิพิธภัณฑ์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ครับ  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็น พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ของ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย รวมถึงประวัติของพระองค์ท่านในด้านต่าง ๆ ไว้ด้วย สถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์จะอยู่ภายในสวนกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ หรือที่เรียกกันในชุมชนว่า หนองตะเคียน ภายในสวน นอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์แล้ว ก็ยังศาลกรมหลวงชุมพร ที่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของชาวบ้านในพื้นที่ ด้านหน้าพิพิธภัฑณ์จะเป็นพระรูปของเสด็จในกรมฯ และเสาธงแบบทหารเรือ พร้อมส่วนจัดแสดงกลางแจ้ง ที่ประกอบไปด้วย สมอเรือ , รูปปั้น และปืนใหญ่โบราณ   พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นอาคารชั้นเดียว แบ่งออกเป็น 3 อาคารดัวยกันคือ อาคารอาภากร อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และอาคารหมอพร โอบล้อมพระอนุสาวรีย์เป็นรูปครึ่งวงกลม อาคารหลังแรกคืออาคารอาภากร เป็นอาคารที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระประวัติของ เสด็จเตี่ย ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จนกระทั่ง เข้ารับราชการทหารเรือ โดยจะประกอบไปด้วยรูปภาพของพระองค์  และสิ่งของเครื่องใช้ประจำพระองค์ เช่น กระบี่ ปืน กรับที่ใช้ในการขับเสภา เครื่องเสวย เครื่องแบบประจำพระองค์ฯลฯ อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แสดงประวัติของพระองค์ เมื่อครั้งทรงรับราชการทหารเรือ , ข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ และอุปกรณ์เดินเรือที่เป็นของส่วนพระองค์ อาคารสุดท้ายคืออาคารหมอพร เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวของ หลังจากที่ทรงลาออกจากราชการ แล้วหันมาศึกษาวิชาการแพทย์ และรักษาประชาชนจนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักันในนามหมอพร โดยในอาคารนี้จะจัดแสดงตำรายาต่าง ๆ  หินบดยา ล่วมยาหรือกล่องยา ไม้ตะพดประจำพระองค์ ตำราดูลักษณะม้า และตัวอย่างสมุนไพรที่พระองค์นำมาประกอบเป็นยารักษาโรคแก่ประชาชนทั่วไป ถ้าท่านมาที่นี่แล้วโชคดี ก็จะได้พบกับคุณลุงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ดูแล และเป็นวิทยากรประจำพิพิธภัณฑ์ด้วย ท่านผู้นี้เป็นผู้ที่รู้เรื่องราวของเสด็จเตี่ยเป็นอย่างดี และจะคอยให้ความรู้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมชมอย่างเป็นกันเอง สงสัยอะไรก็ถามได้ครับ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ก็อาจจะเดินชมธรรมชาติในสวนต่อก็ได้ครับ โดยเฉพาะยามเย็น จะเป็นสถานที่ออกกำลังกายของคนที่นี่ และทุก ๆ ปี จะมีงานเทศกาลต่างๆ จัดขึ้นที่นี่บ่อย ๆ และก็จะมีโอกาสได้เห็นการแสดงแฟนซีดริลของทหารเรือด้วยครับ

ครัวแสมสาร ซีฟู้ด ร้านอาหารอยู่ในอำเภอสัตหีบ ที่มีอาหารสดๆ จากทะเล และเป็นวัตถุดิบอย่างดี สดทุกวัน ร้านตกแต่งเรียบง่าย บรรยากาศดี สะอาด แถมรสชาติอาหารยังอร่อยถูกปาก เน้นการบริการเป็นกันเอง และยังมีเมนูหลากหลายให้เราได้เลือกทาน

ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดฮิตอย่างไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ไม่แวะคงไม่ได้ ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ ขุนเขาสีเขียวเหมือนอยู่เมืองนอก สามารถนั่งรถรางชมไร่องุ่นที่กว้างใหญ่กว่า 1,000 ไร่ ซึ่งปลูกองุ่นถึง 12 สายพันธุ์ แวะชิมองุ่นสด เลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นมากมาย รวมถึงนั่งชมวิวไร่องุ่นริมน้ำให้บรรยากาศโรแมนติก พร้อมชมพระอาทิตย์ยามเย็น (คลิกอ่าน-เที่ยวไร่องุ่น ทุ่งดอกไม้สีสวย ที่ Silver Lake พัทยา ลองไวน์ และน้ำองุ่นรสชาติเยี่ยม

ไทธานี แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าสนใจด้วยศิลปะ ประเพณีแบบไทยๆ เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมและศิลปะ (Thai Art and Culture Village) ที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกัยวิถีชีวิตความเป็นไทยในอดีต ภายในมีสถาปัตกรรมไทยงดงาม รวมถึงงานศิลป์ไทย ทั้งงานประติมากรรมดินปั้นฝาผนัง ประติมากรรมปูนปั้น สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจ มีทั้งการเพ้นท์ร่มผ้าฝ้าย การทำบายศรี รับประทานอาหารแบบขันโตก เดินกาดหมั้วแบบล้านนา และชมการแสดงวัฒนศิลป์แบบ 4 ภาค (คลิกอ่าน-เที่ยวไทธานี Thai Art and Culture Village หมู่บ้านวัฒนธรรมและศิลปะ ที่พัทยา

เรือหลวงจักรีนฤเบศร มีความหมายว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี ได้รับพระราชธานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรือจอดเทียบท่าอยู่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ภายในฐานทัพเรือสัตหีบ เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัสถึงเขี้ยวเล็บความยิ่งใหญ่ของราชนาวีไทย คอยปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของชาติ เป็นเรือบรรทุกอากาศยานลำแรกของไทย นับเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพเรือไทย ใช้บรรทุกเครื่องบินรบ และ เฮลิคอปเตอร์ เป็นเรือที่มียุทโธปกรณ์ทันสมัยที่สุดของกองทัพเรือ ลำเรือมีความยาวเทียบเท่าความยาวของ 2 สนามฟุตบอล ภายในเรือมีห้องปฎิบัติการและห้องพักรวมกว่า 600 ห้อง หากในยามศึกสงคราม เรือหลวงจักรีนฤเบศรเป็นเรือรบที่คอยบัญชาการเรือรบทั้งหมดในท้องทะเล เป็นเรือที่มีศักยภาพในการปราบปรามยับยั้งเรือดำน้ำที่คอยสอดแนม และคอยสนับสนุนทางอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และยังเป็นเรือที่คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลได้อย่างรวดเร็ว อย่างในกรณีภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้น เมื่อครั้งเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 และ เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ อำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี 2553  เดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือเป็นรันเวย์ทางยาวสำหรับให้เครื่องบินรบ และ เฮลิคอปเตอร์ ขึ้น ลง บนดาดฟ้าเรือนี่เองที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสัตหีบได้แบบมุมกว้าง ยิ่งขึ้นไปบริเวณหัวเรือที่เป็นสโลปขึ้นไปแล้วมองลงมายังรันเวย์ยิ่งอดใจไม่ไหวต้องรีบควักกล้องถ่ายรูปมาถ่ายเลยทีเดียว

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สากลเรียกว่า Natural History Museum อันเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงวัตถุธรรมชาติ (ธรรมชาติวิทยา) ทั้งในด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ ทางทะเลเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ริมทะเลบริเวณเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี อยู่ตรงข้ามเกาะแสมสาร มีพื้นที่ประมาณ 16 ไร่ เป็นหนึ่งใน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สิ่งก่อสร้างมีลักษณะเป็นอาคารไต่ระดับเขาถึงยอดเนินเป็นอาคารรูปพัด เพื่อให้มองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของเกาะและทะเลโดยมุ่งที่จะให้ผู้ชมเห็นความงดงามของท้องทะเล แล้วเกิดจินตนาการและความปิติที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ตามแนวพระราชดำริพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ว่า “ให้สำรวจตั้งแต่ยอดเขาถึงใต้ทะเล” กองทัพเรือได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชดำริมาประมวลเป็นรูปแบบการก่อสร้างและหลักการการจัดการพิพิธภัณฑ์ฯ จนกระทั่งบัดนี้การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยบนฝั่งแสมสารรวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะแสมสารแล้วเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2550 สำหรับเนื้อหาการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะแสมสาร จะประมวลมาจากผลการสำรวจเกาะต่างๆ ของไทยในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โดยคณะปฏิบัติงานวิทยาการ หรือคณะนักวิทยาการหลายสาขาจากหลายสถาบัน ที่อุทิศตนอาสาสมัครเข้ามาปฏิบัติงานร่วมในโครงการฯ ได้นำตัวอย่างและงานวิจัยในเรื่องพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ดิน หินแร่ มาจัดแสดง และต่อไปจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมในโอกาสที่เหมาะสมด้วย

พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยลายเส้น ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย สร้างเลียนแบบ พระพุทธนวราชบพิตร ศิลปะอันงดงามผสมผสานระหว่างสุโขทัยกับล้านนา พระพุทธรูปมีขนาดความสูงรวมฐานบัวถึงบัลลังค์ 130 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร แกะสลักด้วยงามเลเซอร์บนหน้าผาสูงเด่นตระหง่านเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้มาเยือน ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 แล้วเสร็จ ในปี 2543 เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี และทรงพระราชทานนามว่า  “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา” ซึ่งมีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรืองสว่างประเสริฐ ดุจดังมหาวชิระ” เขาชีจรรย์ครอบคลุมอาษาเขต 1 ส่วน 4 ตารางกิโลเมตร มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ยอดเขาสูงสุดวัดได้ 248 เมตร แต่เดิมเป็นเหมืองหินเก่า มีการระเบิดทำลายหินทุกวัน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหา สังฆปรินายก เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเสียดายภูมิทัศน์อันสง่างามตามธรรมชาติของเขาชีจรรย์ ที่หากปล่อยไปนานนับวันก็จะถูกทำลายจนหมดสิ้น จึงทรงดำริให้ทำการอนุรักษ์เขาชีจรรย์ให้อยู่คู่กับเขาชีโอน ซึ่งอยู่ในเขตของวัดญาณสังวรารามวรวิหาร ด้วยการสร้างพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาเขาชีจรรย์เพื่อเป็นปูชณยสถาน เป็นที่สักการะขอพรแด่พุทธศาสนิกชนที่มาเยี่ยมเยือน

หาดเตยงาม ชายหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์ ชายหาดทอดโค้งยาวประมาณ 400 เมตร หาดทรายขาวสะอาด ซึ่งเวลาน้ำทะเลลดลงต่ำสุดทำให้หน้าหาดกว้างเป็นพิเศษ เหมาะกับการเดินเล่นรับกลิ่นไอทะเลได้อย่างเพลิดเพลิน เบื้องหน้าสามารถเห็นวิวเกาะเล็กๆได้แก่เกาะไก่เตี้ย  บริเวณรอบโอบล้อมด้วยแนวปะการังหลายสายพันธุ์ หาดเตยงามมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าอ่าวนาวิกโยธินเนื่องจากอยู่ในเขตกองบัญชาการนาวิกโยธินไทย หาดทรายมีสภาพสมบูรณ์ทางธรรมชาติเนื่องจากได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากนาวิกโยธินไทย นอกจากน้ำทะเลที่ใสสะอาดไม่แพ้ที่อื่นๆในสัตหีบแล้วบริเวณใกล้ชายหาดยังมีพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน ภายในจัดเป็นนิทรรศการโชว์ประวัติความเป็นมาของนาวิกโยธิน มีห้องแสดงต่างๆเกี่ยวกับราชนาวีไทย เช่น ห้องแสดงเครื่องแบบ ห้องแสดงอาวุธเป็นต้น หาดเตยงามเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 18.00 น. ไม่เสียค่าเข้า นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องแลกบัตรก่อนเข้าเยี่ยมชมสถานที่

หาดนางรำและหาดนางรองเป็นชายหาดต่อเนื่องกัน  ทั้งสองชายหาดได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในสัตหีบ มีชายหาดสวย น้ำทะเลใส หาดทรายขาวสะอาดนุ่มเท้าตามแบบฉบับของทะเลสัตหีบ  หาดนางรำมีบรรยากาศร่มรื่นด้วยทิวสน ผู้คนค่อนข้างคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องอาบน้ำจืดสาธารณะ และกิจกรรมเล่นน้ำต่างๆมากมายสำหรับรองรับนักท่องเที่ยว อาทิเช่น พายเรือคายัค บานาน่าโบ๊ท   เดินเลียบหาดทางทิศใต้ของชายหาดจะมีบรรยากาศ เงียบสงบกว่า ปลายหาดเข้าเขตหาดนางรองมีรูปปั้นตัวละครเรื่องพระอภัยมณี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหาดแห่งนี้ ชายหาดน่าเล่นน้ำไม่เป็นรองหาดนางรำเลย คลื่นลมไม่แรง สามารถนำเต็นท์เข้ามากางพักค้างแรมได้เนื่องจากบริเวณหาดนางรองนั้นไม่มีที่พัก ราคาค่าเข้าสำหรับบำรุงสถานที่ รถยนต์คันละ 20 บาท รถตู้คันละ 30 บาท และรถบัสคันละ 50 บาท

หาดน้ำใส กำลังเป็นหาดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวอยากมาที่สุดหาดหนึ่งในสัตหีบ เป็นชายหาดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเฉพาะชาวไทยเข้าชมเมื่อต้นปี 2557 จึงนับได้ว่าเป็นชายหาดน้องใหม่ยอดฮิตของสัตหีบ มีชื่อเสียงเรื่องชายหาดที่ขาวละเอียด น้ำทะเลก็ใสสมชื่อจริงๆ แถมยังมีขุนเขาใกล้หาดเป็นวิวทิวทัศน์ในฝันเลยก็ว่าได้ เหตุที่ชายหาดยังคงความสวยงาม น้ำใสเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ได้แบบนี้เนื่องจากได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ภายใต้เขตการดูแลของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หาดน้ำใสมีความยาวประมาณ 600 เมตร บรรยากาศน่าพักผ่อน มีร่มตามชายหาดเหมาะกับการเอนกายใต้ร่มเงานอนอ่านหนังสือหรือชมวิวแบบชิลๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง อาทิเช่นพายเรือแคนูซึ่งมีอุปกรณ์ให้เช่าจากเจ้าหน้าที่บริเวณหาด นอกจากนี้ยังมีสัตว์ที่ทางเจ้าหน้าที่เลี้ยงไว้ในกรง อย่าง แพะ แกะ เป็นที่นิยมถ่ายรูปจากน้กท่องเที่ยว บริเวณหาดไม่อนุญาติให้ก่อไฟทำอาหารแต่อนุญาติให้นำอาหารมาทานภายในได้ จึงมักจะเห็นครอบครัวตั้งวงปิคนิคทานอาหารชมวิวกันอย่างมีความสุข หากไม่อยากนำอาหารเข้ามาบริเวณหาดก็มีร้านค้าต่างๆราคาเป็นกันเองไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว

เกาะขาม เป็นเกาะรูปทรงตัว H มีเวิ้งอ่าวโค้งเข้าหากัน ภายใต้การดูแลอนุรักษ์เป็นอย่างดีของกองเรือป้องกันชายฝั่งแห่งราชนาวีไทย บนเกาะเป็นที่ตั้งของอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เกาะสวรรค์ของนักดำน้ำ รอบเกาะอุดมไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้น ปลาทะเลสวยงาม และสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์ เป็นที่นิยมของนักดำน้ำที่ชื่นชอบความงามใต้ท้องทะเล นักท่องเที่ยวสามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำเพื่อสัมผัสความสวยงามแบบใกล้ชิด หรือถ้าไม่ถน้ดก็สามารถชื่นชมความงามด้วยเรือท้องกระจกที่พร้อมให้บริการ เกาะขามมีหาดทรายทอดยาว ขาวสะอาด เดินนุ่มเท้า น้ำทะเลใสสะอาดเหมาะกับการเล่นน้ำทะเลอย่างยิ่ง บนเกาะมีเส้นทางเดินเขาขึ้นไปชมวิวความงดงามของผืนฟ้าตัดกับท้องทะเลฟ้าใส บนเกาะไม่มีที่พักหากนักท่องเที่ยวต้องการค้างแรม นักท่องเที่ยวสามารถหาที่พักสัตหีบราคาย่อมเยาได้ที่ช่องแสมสารหรือตัวเมืองสัตหีบ ซึ่งสะดวกมีตลาด ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เกาะขามเปิดช่วงฤดูท่องเที่ยว ในปี 58 เริ่มเปิด ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน เป็นต้นมา ให้เข้าชมได้ เฉพาะ วันเสาร์ อาทิตย์ ( สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 ใน วันและเวลาราชการ :0-3843-9444 หรือ 0-3843-7927  ช่วงเย็นติดต่อ 0897876701 หรือ เฟซบุ๊คแฟนเพจอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม )

เกาะแสมสาร เป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรณ์ธรรชาติทั้งบนดินและในน้ำ เป็นเกาะแห่งการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช  มีความหลากหลายทางระบบนิเวศน์ บนเกาะบรรยากาศสดชื่นสบาย มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และสวนพฤกศาสตร์ที่พร้อมมอบสนุกสนานเพลิดเพลิน และที่สำคัญให้ความรู้แก่ผู้มาเยือน เกาะแสมสาร เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสีใสมองเห็นพื้นทรายใต้น้ำราวกับมองผ่านกระจก หาดทรายที่เกาะแสมสารนั้นขาวสะอาดไม่แพ้ชายหาดชื่อดังต่างๆของประเทศไทย เม็ดทรายขาวละเอียดยามได้ย่างเท้าเดินสัมผัส ให้ความรู้สึกถึงหาดทรายละเอียดนุ่มเท้า ไม่เพียงเท่านี้ เกาะแสมสารยังมีความงดงามใต้ท้องทะเลให้ดำน้ำชื่นชมความสวยงามของ แนวปะการัง และ ฝูงปลาหลากหลายสายพันธุ์ บนเกาะมีหาดทรายที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำ บรรยากาศเงียบสงบ ได้แก่ หาดเทียน อยู่ทางริมฝั่งตะวันออกของเกาะแสมสาร และ หาดลูกลม ที่อยู่ทางริมฝั่งทิศเหนือของเกาะแสมสาร ทั้งสองหาดมีน้ำทะเลฟ้าใสเหมือนคริสตัล อยู่ห่างจากกันไม่มากนัก มีบริการรถรับส่งฟรีระหว่างสองหาด นอกจากนี้ยังมีชายหาดอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่ หาดเทียน หาดฝรั่ง หาดแหลมและหาดกรวด นอกจากกิจกรรมดำน้ำที่ขึ้นชื่อบนเกาะแสมสารแล้ว บนเกาะยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวได้แก่ กิจกรรมปั่นจักรยานศึกษาเส้นทางธรรมชาติไปถึงหาดกรวด นั่งเรือท้องกระจก ชม ความงามของปะการังหลากหลายสายพันธุ์ ปะการังที่ พบได้บ่อย ได้แก่ ปะการังสมอง และ ปะการังเขากวาง